ส่งศิษย์ถึงฝั่ง



ตีพิมพ์ในคอลัมน์จิตตปัญญา

หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กายใจ

ฉบับวันที่ 19 สิงหาคม 2555

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมาจากงานบนโต๊ะ เห็นลูกศิษย์ที่นัดไว้เปิดประตูเข้ามาหา เขาฉีกยิ้มกว้างแบบที่ผมจำได้แม่น

"สวัสดีครับอาจารย์ ผมมาลาอาจารย์ครับ"

"อ้าว!" ผมแปลกใจ วางงานลง พากันเดินมานั่งคุยที่โซฟาห้องโถง ไต่ถามความเป็นมาเป็นไปว่าจะลาไปไหน จึงได้ทราบว่า "ผมจะไปเรียนต่อปริญญาเอกครับ"

ความแปลกใจก็ยังไม่หาย เพราะเห็นเขาเพิ่งได้งานใหม่ที่สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐ อีกได้ข่าวว่ากำลังสนุกกับการเดินทางไปทำวิจัยทั่วประเทศ เขาเล่าว่าพอดีมีโอกาสเรียนต่อเข้ามา ได้รู้จักกับอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านที่สนใจ จึงตัดสินใจไปเรียน ด้วยว่าจะไปเรียนถึงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงมากราบลา

มาลัยดอกมะลิพวงงามที่เตรียมไว้ถูกหยิบออกมา เขาย่อตัวลงนั่งคุกเข่าที่พื้นห้อง พนมมือที่ถือพวงมาลัยกลิ่นหอมขึ้น ตอนนี้เพื่อนๆ ของเขาก็มานั่งใกล้ๆ ด้วย เขาขออนุญาตทำพิธีขออโหสิกรรม โดยออกตัวว่ารูปแบบและถ้อยคำที่จะกล่าวก็จำจากที่เห็นมา ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องครบถ้วนแค่ไหน

ชายหนุ่มนิสัยเรียบร้อยเอื้อนเอ่ยคำขออโหสิกรรมอย่างชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ แฝงความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง

ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหยุดลง ความตั้งใจทั้งหมดทั้งมวลของทุกคนอยู่ที่กิจกรรมนี้ คุณภาพของความตั้งใจดังกล่าวทำให้พิธีกรรมเรียบง่ายศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที

หลังจากคำอโหสิกรรม เขาเล่าถึงบางช่วงของการเส้นทางชีวิตตั้งแต่ได้เจอชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ที่ผสมผสานกระบวนการจิตตปัญญาของเราว่ามันมีความหมายเช่นไร คำพูดเขาทำให้ผมย้อนระลึกถึงเด็กหนุ่มที่ก้าวเข้ามาเรียนในวิชาเลือกที่ผมสอนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาวันนั้นกับวันนี้เรียกได้ว่าต่างกันเป็นคนละคน

เด็กวันก่อนซึ่งก็ไม่ต่างกับเด็กเรียนทั่วไป ที่ขยัน เก่ง และรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะสอบได้คะแนนเยอะ ทำผิดทำพลาดก็เคย ปัจจุบันได้กลายเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถในการรู้จักตนเอง เครื่องมือการเรียนรู้ที่หลากหลายทางจิตตปัญญาทำให้เขาได้พัฒนาด้านหรือมิติที่ไม่เคยเห็นหรือยอมรับมาก่อนของตนเอง ทำให้เป็นคนที่มีความเป็นมนุษย์และรอบด้านมากขึ้น อีกทั้งความสัมพันธ์กับทุกคนที่บ้านก็ดีขึ้น ไม่ว่ากับคุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ น้า หรือพี่สาว กับความสัมพันธ์ยากๆ ที่แต่ก่อนเขานึกไม่ออกเลยว่าจะทำให้คลี่คลาย เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้อย่างไร มาบัดนี้สมาชิกครอบครัวสามารถแสดงออกถึงซึ่งความรักความเข้าใจกันได้อย่างอิสระมากขึ้น เป็นที่พึ่งของเพื่อนร่วมงาน ช่วยทำให้บรรยากาศที่ทำงานเป็นมิตร ผู้คนใส่ใจให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์

"ผมตั้งใจจะทดแทนบุญคุณของอาจารย์ครับ แต่ต้องไปเรียนต่างจังหวัด ระหว่างนี้ผมจะขอทำความดี เป็นคนดี และน้อมนำเอาสิ่งที่อาจารย์สอนไปปฏิบัติเพื่อทดแทนคุณนะครับ"

ถ้อยคำที่กล่าวอย่างหนักแน่น ทำเอาผมตื้นตันอย่างมาก ย้อนระลึกถึงนับตั้งแต่วันที่ได้เริ่มมาเป็นครูแล้ว ก็ได้พบได้เจอประสบการณ์ดีๆ มาก็ไม่น้อย แต่ช่วงเวลาเช่นนี้ที่ได้เห็นการเติบใหญ่ของศิษย์ ไปสู่การเป็นมนุษย์ผู้มีความพร้อมในการดูแลตนเองและครอบครัว มีความเข้าใจในตนเองและโลก ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายมากสำหรับความพยายามทั้งหมดที่ได้ทุ่มเทไปในฐานะครูคนหนึ่ง

ขอบพระคุณคุณพ่อ คุณแม่ ที่ได้ให้ชีวิต ขอบพระคุณครูบาอาจารย์ผู้อบรมขัดเกลา ทำให้ผมได้ทำงานนี้ งานที่ได้เป็นประจักษ์พยานการเปลี่ยนผ่านของศิษย์ เป็นงานที่เติมเต็มความหมายให้ชีวิต

0 comments: