รถติดก็สุขได้ง่ายจัง


ตีพิมพ์ในคอลัมน์ Happiness@Home
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2548


"เปิดเทอมวันแรกกรุงเทพฯ สุดโกลาหล สะพานต่างระดับรัชวิภา ห้าแยกลาดพร้าว และสะพานตากสินการจราจรติดขัดหนัก" พาดหัวข่าวออนไลน์ตัวใหญ่ของสำนักข่าวแห่งหนึ่งเมื่อวันจันทร์

สถานการณ์รถติดหนึบบนท้องถนน กับข่าวพาดหัวหลายฉบับชวนให้ตั้งคำถามกับคอลัมน์นี้ ซึ่งมีสองเวอร์ชั่น คือ Happiness@Home และ Happiness@Work มีคอลัมนิสต์หมุนเวียนแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเชื้อเชิญความสุขเข้ามาในพื้นที่ชีวิตของเราทั้งที่บ้านและที่ทำงาน แต่ เอ ... แล้วสิ่งที่อยู่ระหว่าง home กับ work ล่ะ? เช่น ทำอย่างไรดีถ้าต้องติดอยู่ในรถระหว่างเดินทาง เราจะมี Happiness@Somewhere-between-Home-and-Work ได้อย่างไร?

สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นแบบฝึกหัดซ้อมมือสำหรับชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่จะยากขึ้นไปอีกเมื่อเดือนมิถุนายนมาถึงและมหาวิทยาลัยเปิดเรียน คนกรุงเทพฯ และชาวเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง มีเหตุอันจำเป็นต้องพัฒนาคุณลักษณะพิเศษในการจัดการตัวเองขณะติดอยู่ในสภาพจราจรจลาจล

เมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์รถติด เราควรทำอย่างไร? ...เคยมีผู้เสนอเทคนิคพื้นฐานต่างๆ เอาไว้มากมาย ทั้งเขียนและพูดบรรยายไว้ในหลายที่ โดยเฉพาะ อาจารย์หมอประเวศ วะสี และหลวงพี่ไพศาล วิสาโล ตัวอย่างเช่น


  • หาวิธีให้ใจไปจดจ่อกับสิ่งอื่น (จะได้ไม่คิดเรื่องรถ) เช่น ฟังข่าว ฟังเพลง ฟังธรรมะ (แต่หลวงพี่ตั้งข้อสังเกตว่า เทปธรรมะสำหรับบางคน อาจทำให้จิตยิ่งฟุ้งซ่านขึ้นไปใหญ่ เช่นนี้ก็ควรรู้จักเลือกวิธีที่ใช้ได้กับตนเอง)
  • แผ่เมตตาให้กับตัวเอง ... ใช่ครับ ควรแผ่เมตตาให้กับตัวเอง ถ้าเรารัก เป็นห่วง สงสารตัวเอง เราก็จะไม่รำคาญฉุนเฉียว แม้รถจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเข้าใกล้ศูนย์ เพราะทำให้ไม่สบายทางใจ ไม่สบายทั้งกาย ข้อมูลงานวิจัยทางการแพทย์พบว่า หากเราอารมณ์เสียภูมิคุ้มกันโรคบางตัวในร่างกายของเราจะลดลงนานถึง 6 ชั่วโมง ดีไม่ดีโรคกระเพาะ โรคความดัน จะถามหาอีกด้วย
  • ปล่อยวางกับปัญหา ในสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้ เพราะใช่ว่าการหงุดหงิดแล้ว จะทำให้รถแล่นได้ฉิวรึก็ไม่ อันที่จริงแบบฝึกหัดนี้หากทำได้จนคล่องแคล่วมีความชำนาญ ก็สามารถนำไปประยุกต์กับการเผชิญกับปัญหาที่ยุ่งและยากกว่าปัญหารถติดมากนัก (แม้กระทั่งความตายของตัวเองและคนที่เรารัก)


นอกจากสามวิธีนี้แล้ว ผมยังได้เจออีกทางเลือกหนึ่งจากการไปร่วมงานรีทรีท "ภาวนา ... สามัญวิถีแห่งความเบิกบาน : สร้างความรักฉันพี่น้อง ร่วมกันเดินทางดั่งสายน้ำเดียวกัน" จัดโดย หมู่บ้านพลัม กลุ่มสังฆะแห่งสติ กลุ่มวงล้อ เสมสิกขาลัย เครือข่ายพุทธิกา และกลุ่มจิตวิวัฒน์ ในงานเป็นการปฏิบัติภาวนาที่งดงามและเรียบง่ายตามสไตล์เซนของท่านติช นัท ฮันห์ แห่งหมู่บ้านพลัม ฝรั่งเศส ซึ่งมีภิกษุณีนิรามิสา (เป็นภิกษุณีคนไทยคนแรกและคนเดียวที่นั่น) และภิกษุณีติดตาม 2 รูป เป็นวิทยากร

งานรีทรีทครั้งนี้มีบรรยากาศสดใส เบาสบาย ด้วยกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการเดินวิถีแห่งสติ ชมธรรมชาติ ผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ (Total Relaxation) และกิจกรรมเด่นของหมู่บ้านพลัม คือ การร้องเพลง!

และการร้องเพลงนี่เองคือ ทางเลือกที่ว่า ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เผชิญชะตากรรมรถติดร่วมกันได้ดีนักแลครับ โดยเฉพาะเพลงที่ชื่อว่า 'เป็นสุขในปัจจุบัน' (Happiness Is Here and Now) เพลงร้องง่าย ติดหู ร้องสองสามรอบก็จำทำนองได้

เป็นสุขในปัจจุบัน Happiness Is Here and Now

เราเป็นสุขในปัจจุบัน Happiness is here and now
เราได้ปล่อยวางความกังวล I have dropped my worries
ไม่ไปที่ไหน Nowhere to go
ไม่มีงานใด Nothing to do
เราจึงไม่ต้องรีบเร่ง No longer in a hurry

เราเป็นสุขในปัจจุบัน Happiness is here and now
เราได้ปล่อยวางความกังวล I have dropped my worries
ต้องไปที่ไหน Somewhere to go
จะมีงานใด Something to do
เราก็ไม่ต้องรีบเร่ง But not in a hurry


เนื้อเพลงว่า ความสุขอยู่ที่นี่และตรงนี้เลย ไม่ต้องแบกอะไรไว้ ถ้าไม่ไปไหน ไม่ทำอะไรก็ไม่ต้องรีบ หรือถ้าต้องไปที่ไหน ต้องทำอะไร ก็ไม่ต้องรีบเหมียนกัลล์ เป็นการฝึกสติที่ผสมผสานเทคนิควิธีทางศิลปะดนตรี สุนทรียภาพมาเป็นอุบาย ทำให้ทั้งง่ายและสนุกได้มากทีเดียว

เดี๋ยวนี้ผมเลยมีของเล่นไว้ส่งเสริมความสุขของตนเองและคนรอบข้างเพิ่มขึ้นอีกอย่าง ตอนไหนที่รู้สึกว่าสติสตังไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ก็ได้อาศัยเพลงช่วยกล่อมให้ช้าลง และรู้ตัวมากขึ้น

หากเจอกับสถานการณ์รถติด ลองเลือกสักวิธีที่เหมาะกับตัวคุณดูบ้างสิครับ ได้ผล-ไม่ได้ผลเขียนมาเล่าให้ฟังกันบ้างครับ :-)

0 comments: