ตีพิมพ์ในคอลัมน์ Happiness@Home
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับประจำวันที่ 1 มกราคม 2549


เตียงไม้กระดานเรียบเย็น ช่วยให้ความรู้สึก รู้เนื้อรู้ตัวกลับมาแจ่มใสและไม่โอ้เอ้ เรื่อยเปื่อย ขี้เกียจ ขี้เซา แม้หลังจากผมขยับตัวครั้งแรก รู้สึกขอบคุณเตียงจัง หลายชั่วโมงกับการนอนหลับ การพักผ่อนที่สบาย ผ่อนคลาย ดิ่งลึก ไม่ฝันอะไรเลย ... เมื่อคืนไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุก ตั้งใจให้ร่างกายปลุกเราเองเมื่อพักผ่อนพอ นอนไม่มาก ไม่น้อยเกินไป มากไปก็อืดอาด เฉื่อยเนือย น้อยไปก็เพลีย

การหลับเป็นเหมือนของขวัญอันพิเศษของชีวิต เป็นส่วนสำคัญของการเดินทาง จำได้ว่าเมื่อคืนค่อยๆล้มตัวลงนอน บอกลาราตรีของกรุงเทพเมืองฟ้าอมรชั่วคราว ขณะบรรยากาศเย็นสบาย ค่อนไปทางหนาวนิดๆ พอได้รู้เนื้อรู้ตัว รู้สึกถึงแต่ละส่วนของร่างกายที่สัมผัสแผ่นไม้และผ้าห่ม รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของชีวิต ขอบคุณที่ได้ให้เรา “นอนได้” รู้สึกขอบคุณครูบาอาจารย์และร่างกายของเราเองนี้ที่สอนให้เรารู้จัก “นอนเป็น” (มั๊ง) จนต้องแอบยิ้มให้ตัวเองเล็กๆ

ตื่นขึ้นมาก็พบกับรอยยิ้มของท่านดาไลลามะ จากปกหนังสือ The Art of Happiness (ศิลปะแห่งความสุข) รอยยิ้ม สีหน้า และแววตาท่านใสๆ เหมือนเด็กๆ ผมเองอดยกมุมปากขึ้นน้อยๆ ตามท่านไม่ได้ พอได้ยิ้มสักหน่อย รู้สึกเหมือนมีใครไปเปิดสวิทช์วงจรความสุข จินตนาการเห็นวงจรทางชีวเคมีถูกเปิด ปลดปล่อยสารเอ็นดอร์ฟินในสมอง รู้สึกความสุขแผ่ซ่านไปเต็มห้อง

ตั้งใจว่าวันนี้จะใช้ชีวิตอย่างมีสติและปัญญา อย่างมีประโยชน์ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ไม่ได้คิดอะไรลงไปในรายละเอียดมากไปกว่านั้น เฝ้าดูว่าวันนี้จะเป็นไปอย่างไรบ้าง

นึกถึงคุณอา ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านหลายวันแล้ว เหมือนอย่างทุกๆครั้งที่โทรไปหา ท่านชวนให้ไปทานอาหารเช้าที่บ้าน วันนี้หิ้วนมถั่วเหลืองที่คนนำมาให้และผลไม้ที่พี่สาวและแม่ไปไหว้พระติดมือไปฝากท่าน พร้อมหนังสืองานศพโยมพ่อหลวงพี่ไพศาล วิสาโล ฮีโร่ตัวจริงของผมให้ท่านยืมอ่าน เป็นหนังสือการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและการตายอย่างสันติและสง่างาม

ผมละเลียดข้าวต้มข้าวใหม่ฤดูกาลนี้ มียางข้าวกำลังมัน เข้าคู่กันดีกับกับข้าวธรรมดาๆ แต่กลมกล่อมด้วยความรัก ความเอาใจใส่ กับฝีมือที่สั่งสมหลายสิบปี ทั้งผัดผักหลายสหาย ยำไข่เค็ม ไข่เจียว หมูผัดกระเทียมพริกไทย ขิงดอง ปิดท้ายด้วยผลไม้หลากชนิดที่ถูกบรรจงจัดเรียง หลังอาหารบทสนทนาสัมมาวาจา อิ่มเอมในถ้อยคำคิดถึงเป็นห่วงเป็นใย เป็นเหมือนน้ำเปล่า สะอาดชื่นใจ นับเป็นหนึ่งในกับข้าวมื้อที่เรียบง่ายและงดงามที่สุดในชีวิต

กลับบ้านมานั่งที่สวน ม้าหินยังสะสมความร้อนจากยามกลางวันไม่ได้มาก ยังเย็นยะเยือกยามนั่ง สายลมเหมันตฤดูพัดโบกมาพอให้ได้ขยับตัวไล่ความหนาวเย็น แสงแดดที่ลอดกอไผ่น้ำเต้าเป็นจุดๆ ดูอาร์ตๆดี รู้สึกวันนี้มีแมลงค่อนข้างน้อย แต่พวกนกกลับแอ็คทีฟมาก

รู้สึกถึงคลื่นพลังบวกในสวน ในชีวิต และในวันนี้มาก พาให้อ่านข่าว อ่านบทความ ตอบอีเมล์ด้วยความสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก สายๆเริ่มมี SMS และโทรศัพท์เข้ามาเป็นระยะๆ จากเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ และลูกศิษย์ ส่ง :-) และความคิดถึง และเรื่องราวชีวิตที่งดงามของแต่ละคนที่มีกับครอบครัว เพื่อน อาจารย์/ลูกศิษย์ ทั้งในงานและที่บ้าน พอให้ได้ยิ้ม ได้ฮา ได้จรรโลงใจ

แผลบเดียวเวลาเที่ยงแล้ว ผมเลือกที่จะเดินไปทานอาหารแถวบ้าน เพราะนั่งมาเกือบครึ่งวัน เป็นวันที่สนุกมาก เห็นเมนูตั้งแต่รายการแรกจนรายการสุดท้ายน่าทานไปหมด ทานไปขอบคุณคนเตรียม คนคิดสูตร คนปรุงอาหาร และคนที่เสิร์ฟไป ทานเสร็จรู้สึกดีที่มีสติ ไม่สั่งเกินพอ กินเสร็จแล้วไม่อึดอัด เหลือที่สำหรับของหวานกำลังดี

ซื้อขนมฝากที่บ้าน ไอศกรีม ๒ กระปุก และทาร์ตเอแคลร์ ๑ ชิ้น กินกัน ๔ คน กับ คุณแม่ พี่สาว และหลานสาว เป็นความสุขเล็กๆ ที่ได้ปันกันกิน ได้กินหลายๆ อย่างโดยไม่มากเกินไป นี่หละนะเป็นข้อดีของการอยู่ร่วมกัน

มีโอกาสเล่าให้พี่สาวฟังถึง โครงการ Hidden Connections (โยงใยที่ซ่อนเร้น) ที่ได้ไอเดียจากครูอั๋น อาศรมศิลป์ ฟริตจอฟ คาปรา และหนัง Six Degrees of Separation โดยให้คน ๑๐๐ คนใช้กล้องถ่ายรูปแบบใช้ครั้งเดียว ถ่ายรูป “ความสุข” แล้วส่งต่อให้คนที่รู้จักต่อไปเรื่อยๆ จนครบ ภาพที่ได้จากสายสัมพันธ์ต่างกันจะเรียงร้อยเป็นส่วนหนึ่งของงาน “มหกรรมความสุข” (Truly Happy Fest) ที่สวนเบญจศิริ วันที่ ๔-๕ มีนาคมปีหน้า ดีใจที่พี่สาวแสดงความสนใจ ชวนให้ผมตื่นเต้นที่จะได้รู้ถึงโยงใยของตัวเราเอง ที่เราเองยังไม่รู้ผ่านทางพี่สาว

วันนี้เป็นวันหยุด วันธรรมดา ที่แสนพิเศษ เป็นวันง่ายๆ สบายๆ ไม่มีกำหนดการที่เร่งรีบให้ต้องทำนู่น ทำนี่ ทำนั่น ได้ค่อยๆ บรรจงละเลียดแต่ละอณู ทีละอณูของวัน รู้สึกเหมือนได้ทบทวน ได้ทำ AAR (after action review) ปีทั้งปีจบแล้ว โดยที่ไม่ต้องคิดด้วย วันนี้ใช้วิธีตั้งใจบอกตนเองว่า อยากจะทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งปี แล้วก็โยนมันเอาไว้ในสมอง ส่วนที่มันทำงานโดยเราไม่ต้อง “คิด”

สัมผัสได้ถึง ความศิโรราบ ความวางใจให้กับชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข ที่มาพร้อมกับ สติ ความแจ่มใส ความสนุก กระตือรือร้นกับโอกาสอย่างเต็มเปี่ยมที่ชีวิตมีให้ รู้สึกถึงสมบัติล้ำค่าของชีวิตที่ได้มาด้วยการปล่อยวางลงบ้าง

คิดถึงเพื่อนที่กำลังทำงานวันนี้ ขอให้ได้มีความสุขจากการทำงาน และได้มีความสุขจากประโยชน์ที่เกิดจากงานนั้น อันจะเป็นของแถมให้ได้มีความสุขเต็มที่ยามที่ได้พักผ่อน

คิดถึงเพื่อนที่ได้พักผ่อนในวันนี้ ขอให้ได้มีความสุขกับการพักผ่อน ให้ได้ผ่อนพักทั้งกาย ทั้งใจ เกิดสติ เกิดปัญญา เกิดกำลัง เพื่อทำงานที่มีประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นในยามที่โอกาสมาถึง

สคส. ส่งความสุขปีใหม่ให้ทุกคนครับ! ;-)

0 comments: